อาหารคาว หวาน ผลไม้ เครื่องดื่ม พร้อมกับพานดอกไม้ธูปเทียน ถูกจัดวางบนผ้าขาวในวันแรม 14 ค่ำเดือน 10 ของทุกปี ของชาวเราเขมรสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ควันจากธูปลอยอบอวลภายใต้ชายคาบ้านแทบทั้งวัน เนื่องจากเราต้องจุดธูปตลอดเวลา เพื่อให้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับได้รับอาหารที่เราตั้งใจนำมาให้
ส่วนใหญ่เราจะเลือกทำอาหารที่บรรพบุรุษชอบทาน และอาหาร ขนมที่ทำกันมาตั้งแต่โบราณกาล เช่น อันซอมโดง อันซอมกระบอง ขนมมุก ขนมกันเตรือม นอกจากนี้ก็เป็นอาหารตามที่เราชอบ
แซนโฎนตา เป็นชื่อเรียกของประเพณีนี้
ประเพณีที่เชื่อว่า เป็นวันเซ่นไหว้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว ลูกหลานที่อยู่ทุกทิศทั่วถิ่นจะกลับมา ถือวันเป็นวันรวมญาติ ชาวบ้านให้ความสำคัญมากกว่าช่วงสงกรานต์ ช่วงประเพณีแซนโฎนตา จะเริ่มตั้งแต่ก่อนงานประมาณสองสัปดาห์ซึ่งจะเรียกวันเบ็จตูจ โดยชาวบ้านจะทำอาหารไปวัดทุกวัน จนถึงวันแซนโฎนตาหรือเบ็ญทม และช่วงนี้เองดวงวิญญาณบรรพบุรุษจะได้กลับมาหาญาติ
ข้อมูลจาก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ กรมศิลปากร ระบุไว้ว่า ในวันแรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๐ เชื่อว่าเป็นวันที่บรรพบุรุษที่ล่วงลับแล้วเดินทางมาถึงโลก ชาวไทยเชื้อสายเขมรทุกครอบครัวจะจัดเตรียมตั้งเครื่องเซ่นไหว้ที่บ้าน โดยจัดใส่กันจือเบ็นเพื่อญาติๆ ใช้สำหรับเซ่นไหว้บรรพบุรุษ “กันจือเบ็น” (กระเฌอสำหรับจัดเตรียมเครื่องเซ่นไหว้)
การทำพิธีแซนโฎนตาโดยผู้อาวุโสก็จะเรียกถามหาลูกหลาน ญาติพี่น้องว่ามาพร้อมหน้ากันหรือยัง และให้มารวมกัน แล้วจะเริ่มเซ่นไหว้โดยจุดธูป เทียน ยกขันห้าไหว้ พร้อมพูดเรียกดวงวิญญาณบรรพบุรุษให้มารับเครื่องเซ่นไหว้ แล้วรินน้ำให้ล้างมือ และรินเครื่องดื่ม เช่น เหล้า น้ำอัดลม ฯลฯ ชี้บอกให้รู้ว่ามีเครื่องเซ่นไหว้อะไรบ้าง ในพิธีเซ่นไหว้ใช้เวลาประมาณ ๒๐ –๓๐ นาที ทำพิธีเสร็จแล้วลูกหลานญาติพี่น้องก็จะนำอาหารเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ มารับประทานร่วมกันเป็นการสร้างความสัมพันธ์ในหมู่ลูก หลาน ญาติ มิตร เพราใน 1 ปี มีเพียงครั้งเดียว
ในช่วงเย็นเตรียมเครื่องเซ่นไหว้ เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ซึ่งได้จัดเตรียมไว้แล้ว พร้อมบอกให้วิญญาณบรรพบุรุษไปที่วัดเพื่อฟังพระเจริญพระพุทธมนต์ จากนั้นพระสงฆ์จะทำพิธีมอบเครื่องเซ่นไหว้แก่บรรพบุรุษ แล้วกลับมาบ้านเตรียมปูที่นอนและเครื่องใช้สำหรับให้บรรพบุรุษ เชื่อว่าบรรพบุรุษจะค้างที่บ้านในคืนนี้ ก่อนสว่างก็จะทำเรือกาบกล้วย ใส่เงินกระดาษ ขนม อาหาร เครื่องดื่ม ผลไม้ และเสื้อผ้าของใช้ขนาดเล็ก จุดธูปเทียนแล้วลอยไปในแม่น้ำ หรือบ่อในบริเวณบ้านเพื่อเป็นการส่งวิญญาณบรรพบุรุษกลับสู่ยมโลกก่อนสว่าง หากไม่ทำเรือส่งท่านก็จะกลับไปยมโลกไม่ได้ และจะติดค้างอยู่ในโลกกระทั่งถึงไงแซนโฎนตาอีกรอบนับเป็นการสร้างบาปและความทุกข์แก่วิญญาณบรรพบุรุษ
ขอบคุณภาพ กระติ๊บบาย Home Studio