เรื่องโดย อาญดา จันทร์นคร , สกุลรัตน์ สองจันทร์
ซาวอีสาน ชวนออกเดินทางเพื่อร่วมทำความเข้าใจและติดตามปัญหา ความเปลี่ยนแปลงบนแม่น้ำโขง แม่น้ำสำคัญที่เคยอุดมสมบูรณ์ วันนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง หลายคนตั้งคำถามและชี้ให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงปัจจุบันนี้จะนำไปสู่การล่มสลาย หรือ การสูญสิ้นแปล่งทรัพยากรที่ชุมชนได้พึ่งพิงอาศัยเลยทีเดียว เวทีแลกเปลี่ยนครั้งนี้เกิดขึ้นจากห้องเรียนของนักศึกษาวิทยาลัยปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ชวนนักวิชาการ นักเคลื่อนไหว ตัวแทนชาวบ้าน นักดนตรีและสื่อมวลชนที่ทำหน้าที่สื่อสารเรื่องราวของแม่น้ำน้ำโขงแห่งนี้มาตลอด มาล้อมวงแลกเปลี่ยนและสร้างวงคุยเพื่อชี้ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญนี้ ณ บ้านแนบน้ำ คาเฟ่ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น

“เมื่อก่อนปลามันเยอะ ออกเรือไปแป๊บเดียวก็ได้ปลากลับมาเต็มลำ แต่ตอนนี้บางวันแทบไม่มีปลาเลย” คำสะท้อนจาก คุณไพเราะ สุจินพรัหม ได้กล่าวถึงสายน้ำที่เคยเป็นทั้งแหล่งอาหารและชีวิตของผู้คนริมน้ำโขง น้ำมันขึ้น ๆ ลง ๆ ผิดธรรมชาติ เวลาน้ำลดแรง ๆ หาดทรายก็หายไป เราทำอะไรไม่ได้เลย สิ่งที่เขาพูดนั้นไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวของชาวประมงที่หาปลาได้น้อยลง แต่นั้นคือสัญญาณเตือนภัยของแม่น้ำที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง ทั้งจากฤดูกาลที่เคยแน่นอนถูกแทนที่ด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนจนคาดเดาไม่ได้ แม่น้ำที่เคยหล่อเลี้ยงทุกชีวิตค่อย ๆ แปรเปลี่ยนไปจากเดิม


แม่น้ำโขง ไม่ใช่เพียงเส้นเลือดใหญ่ของชาวบ้าน ณ สองริมฝั่ง แต่ยังถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของ อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง หรือ GMS (Greater Mekong Subregion) หรือเขตเศรษฐกิจและความร่วมมือระหว่าง 6 ประเทศ ได้แก่ จีนตอนใต้ เมียนมา ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนาม GMS ก่อตั้งขึ้นภายใต้การสนับสนุนของธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ตั้งแต่ปี 1992 โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริม ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยมีโครงการภายใต้การครอบคลุมของ GMS ทั้งในด้านการพัฒนาเครือข่ายคมนาคม พลังงาน การค้าชายแดน และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเกี่ยวพันกับแม่น้ำโขงทั้งสิ้น
แต่หนึ่งในโครงการที่มีผลกระทบมากที่สุดคือ การพัฒนาเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ ซึ่งในปัจจุบันก็ได้มีการดำเนินการในหลายประเทศในภูมิภาค ภายใต้แนวคิดว่า “แม่น้ำโขงสามารถเป็นแหล่งพลังงานสะอาดและยั่งยืน” จนกระทั่งเขื่อนหลายสิบแห่งถูกสร้างขึ้น ทั้งบนแม่น้ำโขงสายหลักและแม่น้ำสาขา โครงการเหล่านี้ส่วนใหญ่มักจะได้รับเงินลงทุนจากบริษัทพลังงานข้ามชาติ และธนาคารเพื่อการพัฒนาระดับโลก แต่อย่างไรก็ตามเบื้องหลังของคำว่า “พัฒนา” นั้น แม่น้ำโขงที่เคยไหลอย่างอิสระกลับถูกควบคุมด้วยกลไกลความต้องการของมนุษย์ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปัจจุบันไม่ได้ขึ้นลงตามฤดูกาลอีกต่อไป

เขื่อนเป็นตัวการที่ทำลายระบบนิเวศของแม่น้ำโขงมากที่สุด ผศ.ดร. ไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ กล่าวถึงผลกระทบอีกหนึ่งด้านของเขื่อนที่สำคัญ เนื่องจากการสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขงนั้น ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบนิเวศและวิถีชีวิตของชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำ หนึ่งในผลกระทบที่เห็นได้ชัดก็คือการเปลี่ยนแปลงของความหลากหลายและประชาคมสัตว์น้ำ โดยการเปรียบเทียบระหว่างแม่น้ำสาขา 3 สายของแม่น้ำโขงตอนล่าง ได้แก่ แม่น้ำมูลตอนล่างที่มีเขื่อนกั้นทางน้ำขนาดใหญ่ แม่น้ำสงครามซึ่งเป็นแม่น้ำที่มีความสมบูรณ์และไม่มีเขื่อนขวางกั้นแม่น้ำ และแม่น้ำก่ำซึ่งมีการสร้างฝายทดน้ำ พบว่า การสร้างเขื่อนส่งผลให้ความหลากหลายของชนิดปลาและโครงสร้างประชาคมสัตว์น้ำเปลี่ยนแปลงไป
มันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้แม่น้ำเสื่อมโทรมลง คนรุ่นผมอาจจะหยุดเขื่อนไม่ได้ แต่ผมหวังว่าวันหนึ่ง คนรุ่นใหม่จะเติบโตขึ้นมาและมีจิตสำนึกมากพอที่จะช่วยกันรื้อเขื่อนที่ทำลายแม่น้ำนี้
ผศ.ดร. ไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ
อย่างไรก็ดี การสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขงไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังส่งผลต่อวิถีชีวิตและเศรษฐกิจของชุมชนริมฝั่งอย่างรุนแรง การสูญเสียอาชีพดั้งเดิมและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอีกด้วย คุณพุฒิสรรค์ กันยาพันธ์ ผู้เป็นตัวแทนสื่อมวลชน กล่าวว่า ชาวบ้านที่เคยพึ่งพาการประมงเป็นอาชีพหลักต้องเผชิญกับการลดลงของปริมาณปลา เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศ จนส่งผลให้รายได้ลดลงและความมั่นคงทางอาหารถูกคุกคามตามไปดัวยเช่นกัน นอกจากนี้เอง การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำที่ไม่แน่นอนจากการปล่อยน้ำของเขื่อน ก็อาจส่งผลกระทบต่อการเกษตรริมฝั่งแม่น้ำ เพราะชาวบ้านไม่สามารถคาดการณ์ช่วงเวลาปลูกพืชหรือเก็บเกี่ยวได้อย่างแม่นยำ ทำให้ผลผลิตลดลงและรายได้ไม่แน่นอน ส่งผลให้ชาวบ้านบางส่วนต้องละทิ้งอาชีพดั้งเดิมและย้ายถิ่นฐานเพื่อหางานใหม่ในเมืองใหญ่
การเกิดเขื่อน ส่งผลกระทบต่อการทําข่าวของเรามากขนาดไหนอันที่จริงเราคิดว่าเขื่อนไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทําข่าวแต่เขื่อนมันส่งผลกระทบต่อเรื่องราวต่อวิถีชีวิตต่อวัฒนธรรมต่อความเป็นอยู่ของผู้คน
คุณพุฒิสรรค์ กันยาพันธ์

เราจะเห็นได้ว่าเมื่อการไหลเวียนของแม่น้ำไม่ได้ถูกกำหนดโดยธรรมชาติและฤดูกาล แต่ขึ้นอยู่กับความต้องการของกลุ่มอำนาจที่ต้นเขื่อน ชีวิตที่ต้องพึ่งพาแม่น้ำก็ต้องปรับเปลี่ยนตามไปด้วย ชาวประมงที่เคยใช้เรือออกหาปลาได้เต็มลำในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ระดับน้ำที่ผันผวนผิดธรรมชาติ ไม่เพียงแต่ทำลายหาดทรายและที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ แต่ยังทำลายความมั่นคงในชีวิตของผู้คนริมฝั่ง เพราะแม่น้ำโขงคือเส้นเลือดที่คอยหล่อเลี้ยงทั้งวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันแม่น้ำสายนี้ก็กำลังถูกทำให้กลายเป็นเพียงเส้นทางส่งน้ำเพื่อรองรับผลประโยชน์ภายใต้อุตสาหกรรมพลังงาน จนทำให้แม่น้ำที่คอยโอบอุ้มทุกชีวิตอย่างที่เคยเป็นมา ถูกทำให้กลายเป็นทรัพยากรที่ถูกควบคุมและกำหนดชะตาโดยคนเพียงไม่กี่กลุ่ม และหากเราปล่อยให้มันดำเนินไปโดยไร้การตั้งคำถาม วันหนึ่งเราอาจพบว่าแม่น้ำสายนี้จะเหลือเพียงภาพจำจากอดีต
สิ่งที่อยากเห็นว่าน้ำโขงในอนาคตเป็นอย่างไร… ผมว่าในมุมส่วนตัว ผมก็อยากให้ทุกคนรู้สึกว่าน้ำโขงก็เป็นส่วนหนึ่งของเรา มันเหมือนอากาศ เหมือนลมหายใจ เวลาขาดมันแล้วค่อยเห็นความสำคัญ ผมว่าน้ำโขงก็เป็นสิ่งนั้น แล้วก็อยากให้มันเป็นสิ่งที่สำคัญที่เราขาดไม่ได้เหมือนกัน
ซัน นันธะชัย วงดตรี Sunder

ชมคลิปวีดิโอเต็มที่นี่ https://www.facebook.com/soundisan/videos/620780057220103