Platysternon megacephalum

เต่าปูลู สัญลักษณ์แห่งการป้องกันไฟป่า สัตว์ป่าคุ้มครองใกล้สูญพันธ์ุ บนแนวเทือกเขาเพชรบูรณ์

เต่าปูลู สัตว์ป่าคุ้มครองที่อยู่ในสถานะเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ ทั่วประเทศไทยมีการค้นพบเต่าน้ำจืดที่ชอบอาศัยอยู่ ในแนวภูเขาพบได้ตามแหล่งลำธารที่มีความสะอาด เหลือไม่มากในประเทศไทย ซึ่งในบทความนี้ผู้เขียน ไม่ขอลงในรายละเอียดของพื้นที่ที่มีการค้นพบ เนื่องจากอาจจะส่งผลกระทบต่อเต่าปูลูที่หลงเหลืออยู่ได้ เพราะปัจจุบันนอกจากการขยายพันธุ์ของเต่าชนิดนี้มีอัตราที่ต่ำ เต่าหนึ่งตัวจะออกไข่เพียง 4-5 ฟองเท่านั้น นอกจากอัตราการขยายพันธุ์ที่ต่ำแล้ว ภัยจากธรรมชาติทั้งการสูญเสียพื้นที่ถิ่นที่อยู่อาศัย การถูกรุกราน จากหลาย ๆ อย่างแล้ว สิ่งที่น่ากังวลยิ่งขึ้นไปอีก คือ อัตราการล่าเต่าปูลูอย่างผิดกฎหมาย มีสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความต้องการหลายอย่างและขบวนการค้าสัตว์ป่าผิดกฏหมายเหล่านี้จึงเป็นภัยร้ายแรงต่อเต่าภูเขาชนิดนี้

Platysternon megacephalum 	
P.  megacephalum
เต่าปูลู เป็นเต่าน้ำจืดกินเนื้อเป็นอาหารชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Platysternon megacephalum (เป็นภาษาละตินแปลว่า “หัวโต อกแบน”) ในสกุล Platysternon วงศ์ Platysternidae ซึ่งมีเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่อยู่ในวงศ์และสกุล >https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%B9

หัวโต อกแบน หางยาว หดหัวเข้ากระดองไม่ได้ แต่ปีนป่ายได้เก่ง

ข้อมูลจากกรมอุทยานแห่งชาติ  สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุไว้ว่า เต่าปูลู หรือ เต่าปากนกแก้ว (Big-headed Turtle) เป็นเต่าน้ำจืดกินเนื้อเป็นอาหารชนิดหนึ่ง มีรูปร่างที่แปลก ไปจากเต่าชนิดอื่น ๆ กล่าวคือ มีการเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว มีความสามารถในการปีนต้นไม้และก้อนหิน ขาและเท้าของเต่าปูลูมีขนาดใหญ่และแข็งแรงหดเข้ากระดองไม่ได้ ขาหน้าและขาหลังของเต่าปูลู มีเกล็ดหุ้มทั้งหมด ตั้งแต่โคนขามีเกล็ดขนาดใหญ่ ฝ่าเท้ามีเกล็ดขนาดเล็กลงมา นิ้วมีเกล็ดหุ้ม มีเล็บแหลม มีหางที่ยาวมากและไม่สามารถหดหัวเข้ากระดองที่เรียวยาวได้

เต่าปูลู มีนิสัยดุ กินเนื้อและลูกไม้เปลือกแข็งเป็นอาหาร รวมถึงลูกนกด้วย กินอาหารโดยวิธีการฉกงับ หากินในเวลาตอนเย็นหรือกลางคืน ส่วนกลางวันจะหลบซ่อนตามซอกหิน  ความแตกต่างระหว่าง เพศผู้และเพศเมีย คือ ตัวผู้มีหางยาวมากกว่า และรูเปิดก้นของตัวผู้จะอยู่ไปทางปลายหางมากกว่า ตัวผู้จะมีอวัยวะเพศ อยู่ภายในรูเปิดก้น เต่าปูลูเมื่อยังเล็ก กระดองจะมีลายสีเหลืองและสีน้ำตาล ส่วนตัวเต็มวัยสีเปลี่ยนไปเป็นสีน้ำตาลเขียวมะกอก ผสมพันธุ์ในน้ำ วางไข่คราวละ 3–5 ฟอง นอกจากนี้ เต่าปูลูยังเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของป่าในพื้นที่นั้น ๆ และเป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เนื่องจากถูกคุกคามถิ่นที่อยู่อาศัยและถูกจับเป็นสัตว์เลี้ยงและปรุงยาสมุนไพร

เร่งอนุรักษ์และสร้างความตื่นรู้ ดึงชุมชนมีส่วนร่วม สร้างเยาวชนเพื่อให้เกิดการหวงแหนเต่าปูลู

ที่โรงเรียนบ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย สมาคมเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาเทือกเขาเพชรบูรณ์ (สอพ.) โดยการหนุนเสริมจากกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ดึงเยาวชนจาก 6 โรงเรียนรอบพื้นที่แนวเทือกเขาเพชรบูณ์ จัดกิจกรรมค่ายเยาวชน กาลครั้งหนึ่งกับเจ้าเต่าปูลู สร้างนิทานเพื่อการอนุรักษ์เต่าปูลู ซึ่งเป็นการใช้สื่ออีกรูปแบบในการเข้าถึงกลุ่มเยาวชนให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในระบบนิเวศของพื้นที่ และการดำรงอยู่ของเจ้าเต่าปูลู ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดความรู้สึกร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรในพื้นที่อีกด้วย

สมิง สิงขรณ์ เครือข่ายอนุรักษ์เต่าปูลูเทือกเขาเพชรบูรณ์ ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย กล่าวว่า  เต่าปูลูจะชอบอาศัยอยู่ตามต้นน้ำลำธารที่เป็นป่าอุดมสมบูรณ์ ระบบนิเวศไม่เป็นมลพิษ มีต้นกล้วยป่า เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ อาหารของเต่าปูลูจะเป็นพวกกุ้ง หอย ปู ปลา แล้วก็ตัวอ่อนของแมลงปอ ช่วงกลางวันส่วนมากจะหลบซ่อนตัวอยู่ในน้ำหรือในถ้ำตามริมคลอง ถ้าเป็นแม่น้ำเขาก็จะมุดอยู่ใต้แม่น้ำ พอกลางคืนจะออกหากิน บางทีก็ปีนป่ายตามต้นไม้ หากินพวกแมลงปีกแข็ง ฤดูฝนก็หากินเห็ดและพืชบางอย่างที่อยู่ตามริมน้ำ ลักษณะที่สังเกตง่าย ๆ คือ หัวโต หางยาว หดเข้ากระดองไม่ได้ เราจะต้องมาช่วยกัน อนุรักษ์ไว้เพื่อไม่ให้สัตว์เหล่านี้หายไปเหลือเพียงการสตาร์ฟไว้หรือ ปั้นไว้เหมือนไดโนเสาร์ หรือ ช้างแมมมอธ ให้ลูกหลานได้เรียนรู้ได้เห็นตัวเป็น ๆ

สมิง สิงขรณ์ เครือข่ายอนุรักษ์เต่าปูลูเทือกเขาเพชรบูรณ์ ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย
สมิง สิงขรณ์ เครือข่ายอนุรักษ์เต่าปูลูเทือกเขาเพชรบูรณ์ ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย

จีระศักดิ์ ตรีเดช นายกสมาคมเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาเทือกเขาเพชรบูรณ์ กล่าวว่า จากวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อม คือ เกิดเรื่องของภัยพิบัติขึ้นในพื้นที่ เราก็ชวนพี่น้องชาวบ้านมาทำเรื่องการฟื้นฟูระบบนิเวศ พื้นที่ต้นน้ำพุง และต้นน้ำหมัน จากการสำรวจก็พบว่ามีชนิดพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตกำลังใกล้สูญพันธุ์ ระบบนิเวศจะฟื้นฟูได้สิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะต้องสามารถดำรงอยู่ได้ในระบบนิเวศเหล่านี้ ชุมชนจึงเป็นกลไกสำคัญในการอนุรักษ์พิทักษ์ สัตว์ใกล้สูญพันธุ์เหล่านี้ 

และประการหนึ่งคือ เรื่องของการเปลี่ยนแปลงที่ดิน จากการทำเกษตรเชิงอนุรักษ์มาเป็นเกษตรเชิงเดียวมันกระทบต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต ไม่ใช่เฉพาะสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อย่างเดียว เพราะห่วงโซ่อาหารของสิ่งมีชีวิตลดด้วย เช่น ถ้าปลาหายไปเต่าปูลูก็คงไม่มีอาหาร ทั้งเรื่องอุณหภูมิ ความร้อน ความชื้น ทางสมาคมเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาเทือกเขาเพชรบูรณ์ จึงทำกิจกรรม กาลครั้งหนึ่งกับเจ้าเต่าปูลูขึ้นมา ชวนเด็กเยาวชนมาเรียนรู้ปลูกฝัง ให้ชุดแนวคิดให้เขาได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ในอนาคต เราไม่ได้มองเพียงแค่การอนุรักษ์แต่เรายังมองเห็นคนด้วย กลไกที่จะรักษาระบบนิเวศ และเต่าปูลูได้ คือ พึ่งมนุษย์ ทำเรื่องกระบวนการเรียนรู้กระบวนการศึกษาเพื่อสร้างพลเมืองสิ่งแวดล้อมให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ขณะเดียวกันการสร้างชาวบ้านที่จะมาปกป้องชนิดพันธุ์เหล่านี้ จะต้องมีการพัฒนาคุณภาพชีวิตไปพร้อม ๆ กัน ขณะที่การบังคับใช้กฎหมายเพื่อรักษาชนิดพันธุ์ สร้างเครือข่ายตาสับปะรด การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนจำเป็นอย่างมาก

จีระศักดิ์ ตรีเดช นายกสมาคมเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาเทือกเขาเพชรบูรณ์
จีระศักดิ์ ตรีเดช นายกสมาคมเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาเทือกเขาเพชรบูรณ์